เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 Maison Development ภายใต้บริษัท “เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด” ได้มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้น เกี่ยวกับทิศทางตลาดอสังหาฯของปี 67 พร้อมแผนกลยุทธ์รับมือปี 67 หลังจากปิดโครงการไปแล้ว 3 โครงการ ภาพรวมตลาดของปีนี้ยังคงมีความท้าทายในกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยอดยกเลิกของกลุ่มนี้ยังคงพุ่งสูงอยู่ ทั้งนี้ทางบริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดลักชัวรี จึงมุ่งเน้นแผนงานพัฒนาโครงการใหม่ของปีนี้รวม 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,700 ล้านบาท พัฒนาบนทำเลศักยภาพตั้งแต่กรุงเทพฯถึงภูเก็ต คาดการณ์โรดแมป 5 ปี มูลค่าพอร์ตของบริษัทรวม 5,000-6,000 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้จะเก็บยอดขายรวม 1,400-1,500 ล้านบาท และยอดโอน 900 ล้านบาท
มุมมองจากผู้บริหาร
นายพงศ์ศักดิ์ สวาทยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด กับประสบการณ์ในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 10 ปี มีมุมมองว่าที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนมีความต้องการ โดยเฉพาะกับโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ดังนั้น เมื่อปี 2561 นายพงศักดิ์ สวาทยานนท์ พร้อมด้วยกลุ่มพันธมิตรจึงได้ร่วมมือกันก่อตั้ง บริษัท เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 51% ของตนเอง และอีก 49% ของกลุ่มพันธมิตร 2-3 กลุ่ม ทั้งนี้การบริหารและพัฒนาแต่ละโครงการจะถูกจัดตั้งบริษัทในเครือขึ้นมาเพื่อพัฒนา โดยจะพัฒนาโครงการทั้งหมดภายใต้แบรนด์ Maison Development (เมซัน ดีเวลลอปเม้นท์)
โครงการของเราที่ปิดการขายมาแล้ว
ในการร่วมทุนตั้งแต่ปี 2561 Maison Development จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการแบบแนวราบ ในระดับราคา 2-5 ล้านบาท บนทำเลกรุงเทพฯโซนเหนือ โซนตะวันออก โซนตะวันตก โซนจังหวัดสมุทรปราการ และโซนจังหวัดชลบุรี โดยที่ผ่านมาทางบริษัทได้มีการพัฒนาโครงการแล้ว 6 โครงการ มูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปิดการขายไปแล้ว 3 โครงการ มูลค่า 1,132 ล้านบาท ได้แก่
ตั้งอยู่ย่านบางรักพัฒนา จ.นนทบุรี พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด บนพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 37-50 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4-6 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 54 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 212 ล้านบาท
ตั้งอยู่ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พัฒนาในรูปแบบของ ทาวน์โฮม 2 ชั้น และโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 6 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 18-50 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2-4 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 66 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 190 ล้านบาท
ตั้งอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 18-19 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 204 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 730 ล้านบาท
โครงการของเราที่เปิดขายอยู่
และยังมีอีก 3 โครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการเปิดขาย โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,100 ล้านบาท โดยในปี 2567 นี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมด ได้แก่
ตั้งอยู่ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พัฒนาในรูปแบบของ ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 19 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 19-20 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2-4 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 210 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 473 ล้านบาท
ตั้งอยู่ย่านบางปูใหม่ จ.สมุทรปราการ พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝด และ ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 17 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 19-37 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2-4 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 173 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 460 ล้านบาท
ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และ อาคารพาณิชย์ บนพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 18-50 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4-7 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 63 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 260 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 2567
นายพงศ์ศักดิ์ สวาทยานนท์ ได้มีการกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับนักพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ที่ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มนี้ยังคงมียอดยกเลิก และภาระหนี้เสียที่สูงมากอยู่ ประกอบกับสถาบันทางการเงินที่มีมาตราการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ในส่วนของบริษัทเองแม้จะยังมีการพัฒนาบ้านในระดับราคา 2-5 ล้านบาทอยู่ แต่ด้วยทำเลและศักยภาพของที่ดินที่เราพัฒนา รวมไปถึงช่วงระยะเวลาที่เราเปิดขายนั้นเป็นช่วงก่อนเวลาวิกฤติการณ์โควิด-19 จึงทำให้เราไม่ค่อยประสบปัญหาเกี่ยวกับยอดยกเลิกมากนัก ส่งผลทำให้ทางบริษัทยังคงมียอดขายและยอดโอนที่น่าพึงพอใจ และยิ่งหลังวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลทำให้ความต้องการในการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง
แผนการเปิดตัวโครงการของ Maison Development ปี 2567
ดังนั้นภายในปี 2567 นี้ ทางบริษัทจะมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งหมด 7 โครงการ โดยมีมูลค่ารวมกว่า 3,700 ล้านบาท พัฒนาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ศรีราชา(ชลบุรี) และภูเก็ต ซึ่งภายในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาบ้านในกลุ่มลักชัวรี ที่มีระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 7-20 ล้านบาท มีจำนวนทั้งหมด 6 โครงการ คือที่กรุงเทพฯ 5 โครงการ และภูเก็ต 1 โครงการ โดยมีที่ดินรองรับทั้งหมดแล้ว ได้แก่
1. Maison Hill Sukhumvit – Sriracha (ไมซัน ฮิลล์ สุขุมวิท – ศรีราชา)
ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พัฒนาในรูปแบบของ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม บนพื้นที่ 24 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 18-36 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.3-4.2 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 176 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 558 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 150 ล้านบาท
2. Morgen Bangkhunthian – Rama2 (มอร์เกน บางขุนเทียน – พระราม2)
ตั้งอยู่ย่านบางขุนเทียน พัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ 30 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 50-70 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 7.5-14 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 103 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 1,060 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในเดือนพฤษภาคม 2567
3. M Venue Rama 3 – Suksawat 62 (เอ็ม เวนิว พระราม3 – สุขสวัสดิ์62)
ตั้งอยู่ที่ซอยประชาอุทิศ 27 พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม 3 ชั้น บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 23-36 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4.9-6 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 42 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 257 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในเดือนตุลาคม 2567
4. Grand Morgen Privacy Phrannok – Sai 1 (แกรนด์ มอร์เกน ไพรเวซี่ พรานนก-สาย1)
ตั้งอยู่บนถนนบางเชือกหนัง พัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในรูปแบบของพูลวิลล่า บนพื้นที่ 6 ไร่เศษ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100-120 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 18-20 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 14 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 270 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน 2567
5. Grand Morgen Phrannok – Sai 2 (แกรนด์ มอร์เกน พรานนก-สาย2)
ตั้งอยู่ใกล้ถนนพุทธมณฑลสาย 2 พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ 28 ไร่เศษ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 102 -199 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 14-16 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 64 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 1,000 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน 2567
6. Mavich Sathupradit – Rama 3 (มาร์วิช สาธุประดิษฐ์-พระราม3)
ตั้งอยู่ใกล้ถนนพระราม 3 พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 24-47 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 14-16 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 29 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 420 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน 2567
7. Maison Sky Villas Phuket ( เมซัน สกาย วิลล่า ภูเก็ต)
ตั้งอยู่บริเวณหาดไม้ขาว ตรงข้ามสนามบินภูเก็ต พัฒนาในรูปแบบของพูลวิลล่า 3 ชั้น บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 44-70 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20-25 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งหมด 8 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการ 180 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในช่วงเดือนตุลาคม 2567
โดยทุกโครงการข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างแล้วทั้งสิ้น คาดการณ์ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2567-2569 ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า จะยังคงเน้นการพัฒนาโครงการอังสังหาริมทรัพย์แนวราบที่มีระดับราคาตั้งแต่ 3-20 ล้านบ้านขึ้นไปเป็นหลัก บนทำเลศักยภาพ อาธิเช่น ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน และต่างจังหวัดตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตที่ทางบริษัทยังคงมีที่ดินสะสมเหลืออยู่อีกหลาย 10 ไร่ ส่งผลทำให้ในอีก 5 ปี ข้างหน้าจะทำให้มูลค่าพอร์ตโดยรวมของบริษัทมีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ นายพงศ์ศักดิ์ สวาทยานนท์ ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ถึงความเป็นไปได้ที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม