ขั้นตอนการซื้อบ้านเดี่ยว

7 ขั้นตอนการซื้อบ้านเดี่ยว ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ?

เรื่องAdminCustomer

             การซื้อบ้านแต่ละหลัง ไม่เหมือนกับการซื้อของทั่ว ๆ ไป ที่สามารถจ่ายเงินแล้วสามารถเป็นเจ้าของได้เลย โดยเฉพาะคนที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน จะต้องเตรียมเอกสารและติดต่อกับทางธนาคารเพิ่มขึ้นมาอีก วันนี้เราจะเลยจะช่วยสานฝันคนอยากมีบ้าน ด้วยการบอกขั้นตอนและการเตรียมตัวเพื่อซื้อบ้าน ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง

 

1. เตรียมพร้อมทางการเงิน

สิ่งแรกของคนที่เตรียมตัวซื้อบ้านต้องเตรียมคือ “ความพร้อมทางการเงิน” และเป็นเรื่องหลัก เพราะภาระค่าบ้านไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังมีค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษาบ้าน และค่าใช้จ่ายภายในบ้านอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งแนะนำให้คนที่จะกู้ซื้อบ้าน เตรียมพร้อมทางการเงินหลัก ๆ 2 ประการ ดังนี้

  • เคลียร์หนี้ และภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน ให้ดำเนินการปิดยอดสินเชื่อที่จำเป็นออกไป ในที่นี้รวมถึงหนี้บัตรเครดิตที่ค้างชำระหรือจ่ายขั้นต่ำอยู่ด้วย
  • ออมเงินก้อน เพื่อเป็นภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างการซื้อเฟอร์นิเจอร์ บิวด์อิน หรือตกแต่งบ้านอื่น ๆ ตามที่ต้องการ

นอกจากนี้ขอแนะนำให้มีเงินก้อนฉุกเฉินสำรองเอาไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างการออกจากงานโดยที่ไม่คาดคิด หรือเจ็บป่วยต่าง ๆ เพื่อจะได้ไม่กระทบสถานะทางการเงินในภาพรวมของเรา

2. ประเมินความสามารถทางการเงิน

ความสามารถในการผ่อนชำระของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนไม่มีภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อาจจะสามารถผ่อนชำระได้เต็มที่ 40-50% ของรายได้ต่อเดือน แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องส่งเงินให้พ่อแม่ หรือมีค่าใช้จ่ายของลูก อาจจะสามารถผ่อนบ้านได้แค่ 30% ของรายได้ต่อเดือน

แนะนำให้ลองเอาเงินที่สามารถผ่อนชำระได้ต่อเดือน คูณด้วย 150 บาท จะได้ยอดวงเงินกู้คร่าว ๆ ที่สามารถจ่ายไหว

ตัวอย่างเช่น หากคำนวณแล้วสามารถผ่อนชำระได้ 40,000 บาทต่อเดือน ยอดวงเงินสินเชื่อสูงสุดที่สามารถขอกู้ได้จะอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยเงินกู้และนโยบายของแต่ละธนาคาร

3. เตรียมเอกสารให้พร้อม

หลังจากเตรียมความพร้อมด้านการเงิน และประเมินราคาค่าบ้านที่สามารถกู้ไหวแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เอาไว้ให้พร้อมดังนี้

  • เอกสารแสดงรายได้ทั้งหมด ทั้งจากบริษัทและรายได้เสริม ได้แก่ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้ หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
  • รายการเดินบัญชีเงินฝาก (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
  • เอกสารหลักประกันต่าง ๆ เช่น สำเนาหนังสือจะซื้อจะขาย/หนังสือวางมัดจำ ในกรณีที่มีโครงการบ้านที่ต้องการซื้อแล้ว
  • เอกสารส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชนของตนเองและคู่สมรส (ถ้ามี) ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) ทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี) ทะเบียนบ้านของผู้ขอกู้

4. สำรวจโครงการบ้านที่ใช่

ถึงเวลาสำรวจหาหมู่บ้านที่ใช่ โครงการที่ชอบ แนะนำให้ลองลิสต์สิ่งที่ต้องการของทุกคนในครอบครัวออกมาก่อน เช่น ครอบครัวอยู่อาศัยกันกี่คน ต้องการกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ พื้นที่บ้านที่ต้องการ พื้นที่ส่วนกลางเป็นอย่างไร สวน สระว่ายน้ำ คลับเฮาส์และฟิตเนสตอบโจทย์ที่ต้องการหรือไม่ ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างไรบ้าง

นอกจากดูรายละเอียดภายในโครงการแล้ว แนะนำให้เลือกทำเลที่ตรงกับความต้องการ เดินทางสะดวกหรือไม่ การขนส่งสาธารณะเป็นอย่างไร การจราจร ถนนหนทาง รวมถึงสาธารณูปโภค ห้างสรรพสินค้า ตลาดที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อที่ทุกคนในครอบครัวจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย

5. การจอง การทำสัญญาจะซื้อจะขายกับโครงการ และเซ็นสัญญากู้ซื้อบ้าน

หลังจากที่สำรวจโครงการบ้านที่ต้องการแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องวางเงินจองกับโครงการบ้าน ซึ่งแต่ละโครงการจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10,000-50,000 บาท โดยมีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้

  • วางเงินจอง เพื่อล็อกบ้านที่ต้องการซื้อ
  • ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับทางโครงการ
  • ขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ซึ่งจะสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ทางโครงการจะเป็นผู้ดำเนินการให้ โดยยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารที่เป็นพาร์ตเนอร์ กับอีกวิธีคือ ผู้ซื้อเป็นผู้ขอสินเชื่อกับทางธนาคารเอง
  • ทางธนาคาร/สถาบันทางการเงิน อาจจะขอเอกสารเพิ่มเติม
  • แจ้งผลการขอสินเชื่อ ซึ่งหากธนาคารอนุมัติมากกว่า 1 ธนาคาร สามารถเลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีและตรงกับความต้องการของผู้กู้มากที่สุดได้
  • เซ็นสัญญาขอสินเชื่อบ้านกับทางธนาคาร

กรณีที่ซื้อเงินสด เมื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว สามารถนัดวันโอนบ้านที่กรมที่ดินได้เลย แนะนำให้จ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คเพื่อความปลอดภัย

6. นัดโอนบ้าน ณ กรมที่ดิน

หลังจากที่เซ็นสัญญากู้ซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว ทางโครงการจะนัดโอนบ้านและที่ดิน โดยเราสามารถทำได้ 2 วิธีการคือ

  1. เดินทางไปโอนด้วยตนเอง
  2. มอบอำนาจให้โครงการเป็นผู้ดำเนินการ โดยเราจะต้องเตรียมเอกสารและเซ็นใบมอบอำนาจให้กับทางโครงการให้เรียบร้อย หากว่ามีเงินกู้ส่วนต่างจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้กู้โดยตรง ไม่ผ่านทางโครงการบ้าน

นอกจากนี้เราจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในวันโอน ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของโครงการและการตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย
  • ค่าจดจำนอง (1% จากเงินกู้) ในกรณีที่จ่ายเงินสด จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
  • ค่าอากรแสตมป์ (0.5% ของราคาซื้อขาย) หรือค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3% ของราคาซื้อขาย)
  • ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ขาย

7. การตรวจรับบ้าน

การตรวจรับบ้านเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อบ้าน เหมือนกับเป็นการตรวจสินค้าก่อนส่งมอบ ซึ่งเราสามารถตรวจรับบ้านด้วยตนเอง หรือจ้างตรวจรับบ้านโดยวิศวกร ซึ่งบ้านเดี่ยวจะอยู่ที่ 5,000 -10,000 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอยของบ้าน

เช็กลิสต์รายการตรวจรับบ้านที่สำคัญ

  • ระบบไฟฟ้าโดยรวม
  • ระบบไฟส่องสว่าง
  • ระบบน้ำภายในบ้านทั้งหมด
  • งานพื้นและผนัง
  • งานประตูและหน้าต่าง
  • โครงสร้างบ้าน
  • สวนและบริเวณโดยรอบบ้าน

หากพบว่ามีการเก็บงานไม่เรียบร้อย หรือไม่ตรงสเปกตามที่ระบุเอาไว้ตามสัญญา สามารถให้ช่างโครงการดำเนินการแก้ไขก่อนส่งมอบบ้าน

บ้านเดี่ยวคุณภาพ จาก Maison Development

หากว่าคุณกำลังมองหาบ้านเดี่ยวโครงการใหม่พร้อมอยู่ ขอแนะนำบ้านเดี่ยวจาก Maison Development มีหลากหลายโครงการและทำเลให้เลือกตามความต้องการ ออกแบบบ้านอย่างพิถีพิถัน ใช้วัสดุคุณภาพดีในการก่อสร้าง ส่วนกลางจัดเต็ม มีพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว นัดหมายเจ้าหน้าที่เพื่อเยี่ยมชมโครงการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-2953397-8

 ข้อมูลอ้างอิง

  1. เอกสารประกอบการขอสินเชื่อมีอะไรบ้าง

Related Posts

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า